สโมสรอาชีพ ของ มิเกล เมริโน

โอซาซูนา

เมริโนเกิดในปัมโปลนา แคว้นนาวาร์ เขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับทีมเยาวชนของเซเด อามิโก ก่อนย้ายไปเซอา โอซาซูนา[3] ในปี ค.ศ. 2014 เขาได้ลงเล่นในระดับอาชีพกับทีมสำรองของสโมสรเป็นครั้งแรกในเตร์เซราดิบิซิออน[3]

ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2014 เมริโนลงสนามนัดแรกให้กับทีมชุดใหญ่ ในนัดเหย้าที่พวกเขาเอาชนะบาร์เซโลนา เบ 2–0 ในเซกุนดาดิบิซิออน[4] ในวันที่ 21 ธันวาคม เขาทำประตูแรกในระดับอาชีพได้สำเร็จช่วยให้ทีมของเขาเอาชนะอูเด ลัสปัลมัส 2–1 ที่กรันกานาเรีย[5]

เมริโนได้รับการลงทะเบียนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2015 โดยได้สวมเสื้อหมายเลข 8[6] เขาลงเล่นมากถึง 29 นัดพร้อมกับทำ 1 ประตู ช่วยให้โอซาซูนารอดตกชั้นอย่างหวุดหวิด

ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 เขาทำสองประตูช่วยให้โอซาซูนาเอาชนะเซเด นูมันเซีย 3–2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น ในวันที่ 8 มิถุนายน ในรอบรองชนะเลิศนัดแรก เขายังทำสองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะฌิมนัสติก 3–1 ในอีก 3 วันต่อมาซึ่งโอซาซูนาต้องออกไปเยือนที่แคว้นกาตาลุญญา เขายังทำ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ให้แก่ฆาบิเอร์ ฟลัญโญ ช่วยให้ทีมเอาชนะ 2–3 รวมผลสองนัดชนะ 6–3[7] ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับฌิโรนา โดยเขาได้ลงเล่นทั้งสองนัด ช่วยให้ทีมเอาชนะในนัดแรกที่เอลซาดาร์ 2–1[8] และชนะในนัดที่สองที่มุนติลิบี 0–1 รวมผลสองนัดชนะ 3–1[9] ทำให้พวกเขาเลื่อนชั้นสู่ลาลิกาได้อีกครั้ง หลังตกชั้นลงมาในปี ค.ศ. 2014

ดอร์ทมุนท์

ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เมริโนได้เซ็นสัญญาร่วมทีมกับโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์เป็นเวลา 5 ปี โดยจะย้ายร่วมทีมในวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป ด้วยค่าตัว 3.8 ล้านยูโร[10] ในวันที่ 14 ตุลาคม เขาได้ลงเล่นในบุนเดิสลีกานัดแรก ในนัดที่เสมอกับแฮร์ทา เบเอ็สเซ 1–1 โดยลงเล่นครบ 90 นาทีในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก คู่กับมัททีอัส กินเทอร์[11]

ตลอดฤดูกาลเขาได้ลงเล่นเพียง 9 นัด โดย 8 นัดเกิดขึ้นในบุนเดิสลีกา และอีกหนึ่งนัดในเดเอ็ฟเบ-โพคาล ซึ่งลงเล่นเพียงนัดเดียวเป็นเวลา 19 นาทีในรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่เอาชนะชปอร์ทฟร็อยน์เดอล็อทเทอ 3–0 ซึ่งสุดท้ายทีมของเขาสามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้[12]

นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (ยืมตัว)

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2017 เมริโนย้ายร่วมทีมนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวระยะยาวซึ่งมีข้อตกลงตามเงื่อนไขที่บังคับให้ทีมต้องซื้อไปร่วมทีมถาวร หากลงเล่นตามจำนวนที่กำหนด[13][14][15]

เขาได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกนัดแรกในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ในนัดเหย้าที่แพ้ให้กับทอตนัมฮอตสเปอร์ 0–2 จากการเปลี่ยนตัวลงมาแทนดไวต์ เกย์ล ในนาทีที่ 76[16]ในวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2017 เขาทำประตูแรกและเป็นประตูเดียวให้กับทีมได้ ช่วยให้ทีมเอาชนะคริสตัลพาเลซ 1–0 ในพรีเมียร์ลีก ที่เซนต์เจมส์พาร์ก ตลอดฤดูกาลเขาได้ลงเล่น 25 นัด ช่วยให้ทีมจบลำดับที่ 10 ของตารางพรีเมียร์ลีก[17]

เรอัลโซซิเอดัด

ในวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 เมริโนได้ย้ายร่วมทีมเรอัลโซซิเอดัด หลังสัญญาถาวรของเขากับนิวคาสเซิลเพิ่งเริ่มต้นเมื่อ 12 วันก่อน[18] ซึ่งไม่มีการเปิดเผยค่าตัวสำหรับการย้ายทีมครั้งนี้ แต่มีรายงานออกมาว่าอยู่ราว 12 ล้านยูโร[19] เขาได้ลงเล่นในลาลิกานัดแรกในวันที่ 188 สิงหาคม ในนัดที่เอาชนะบิยาร์เรอัล 2–1 ที่เอสตาดิโอเดลาเซรามิกา โดยได้ลงเล่น 59 นาที[20] ในวันที่ 21 กันยายน เขาทำประตูแรกให้กับทีมได้ในเกมที่เอาชนะเอเซเด อูเอสกา 0–1 ที่เอลอัลโกรัซ[21] ในวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2021 เขายังได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลโกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2019–20 พบกับอัตเลติกบิลบาโอที่ลาการ์ตูฆา เขาได้ลงเล่นครบ 90 นาทีช่วยให้ทีมเอาชนะทีมร่วมแคว้นประเทศบาสก์ 0–1 ทำให้โซซิเอดัดชนะเลิศการแข่งขันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ค.ศ. 1987[22]

แหล่งที่มา

WikiPedia: มิเกล เมริโน http://www.bdfutbol.com/en/j/j19027.html http://www.goal.com/en-ie/news/3921/transfer-zone/... http://www.marca.com/2014/12/21/futbol/2adivision/... http://www.marca.com/eventos/marcador/futbol/2015_... http://www.marca.com/eventos/marcador/futbol/2015_... http://www.uefa.com/under19/season=2015/matches/ro... http://www.bvb.de/News/Uebersicht/Borussia-Dortmun... http://www.kicker.de/news/fussball/bundesliga/star... http://www.sport1.de/fussball/bundesliga/2016/10/m... http://www.diariodenavarra.es/noticias/deportes/fu...